เมื่อห้องภายในที่พักอาศัย ที่ทำงาน ไม่ว่าจะเป็นหัองครัว ห้องนอน ห้องนั่งเล่น หรือแม้กระทั่งห้องทำงาน ที่เคยหอมสดชื่น เริ่มไม่น่าอยู่เพราะกลิ่นไม่พึงประสงค์ ที่ทำให้บรรยากาศ ภายในบ้านหรือที่ทำงานเปลี่ยนแปลงไปไม่ว่าจะเป็นกลิ่นอับชื้นของห้องที่ไม่ค่อยเปิดใช้งาน กลิ่นอาหาร กลิ่นบุหรี่ กลิ่นเหงื่อ หรือกลิ่นเสื้อผ้าใช้แล้ว ทั้งหมดสามารถเป็นเหตุที่ทำให้ห้องเหม็บอับไม่น่าอยู่ได้ทั้งสิ้น ปัญหากลิ่นไม่พึงประสงค์เหล่านี้ บางคนยังไม่สามารถแก้ปัญหากลิ่นให้หมดไปได้ วันนี้จะขอนำวิธีแก้ปัญหากลิ่นต่างๆให้ห้องกลับมาสดชื่นอีกครั้ง

การเปิดประตู หน้าต่างทิ้งไว้ในตอนเช้าๆนั้นสามารถที่จะช่วยระบายกลิ่นเหม็นอับได้ดี เพราะช่วงเช้ามีแสงแดดแรกที่เป็นช่วงที่อากาศบริสุทธิ์ โดยให้อากาศภายนอกมาแทนที่ และแสงแดดตอนเช้าก็มาช่วยได้มากอีกด้วย หากทำเป็นกิจวัตรประจำวัน จะช่วยบรรเทากลิ่นอับภายในห้องได้ดีทำให้อากาศสดชื่นกลับมาอีกครั้ง

สิ่งของภายในห้อง อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดกลิ่นต่างๆเช่น จานชาม ช้อนส้อมที่ยังไม่ได้ล้าง ถุงขนม อาหารหมดอายุ ซึ่งเราควรจัดการเก็บกวาดให้เรียบร้อย ไม่เก็บสะสมไว้เนื่องจากอาจทำให้เป็นแหล่งของเชื้อโรค โดยเฉพาะผ้าเปียกไม่ควรไว้ในห้อง เพราะเป็นตัวการสำคัญของการเกิดกลิ่นอับชื้น รวมถึงการดูแลพื้นในส่วนที่มีพรมไม่ให้โดนน้ำหรือขนม เพราะเป็นแหล่งสะสมสิ่งสกปรกเป็นแหล่งกำเนิดกลิ่นได้ง่ายและรวดเร็ว

นอกจากนั้น ความสะอาดของที่นอนไม่ว่าจะเป็น หมอน ผ้าปูที่นอน ผ้าห่ม เตียงนอน ผ้าคลุมเตียงเป็นสาเหตุที่ทำให้ห้องนอนเกิดกลิ่นอับได้ทั้งยังช่วยด้านสุขอนามัย โดยควรนำชุดเครื่องนอนมาตากแดดฆ่าเชื้อโรคและหมั่นทำความสะอาดเป็นประจำ ทำให้ห้องมีกลิ่นที่สดชื่นขึ้นได้มากครับ

หากต้องการแก้ปัญหาเรื่องกลิ่นไม่พึงประสงค์ในระยะยาว เราควรพิจารณาหาต้นเหตุของกลิ่น และกำจัดให้ถูกต้อง เช่น กลิ่นในห้องครัวที่ทำอาหาร อันเนื่องมาจากถังขยะ แม้จะปิดฝาให้มิดชิดแล้วก็ยังไม่รอดพ้นจากกลิ่นเหม็น เราสามารถแก้ไขได้ด้วยการนำมะนาวฝานทิ้งลงถังขยะ หรือใช้ใช้หนังสือพิมพ์ รองก้นถังขยะ และปิดฝาถังให้มิด เพื่อป้องกันกลิ่นไม่ให้ฟุ้งกระจาย

ส่วนกลิ่นในห้องครัวที่มาจากอาหารไหม้ เราสามารถใช้มะนาวฝานต้มน้ำในกระทะ เพื่อให้กลิ่นหอมของมะนาวช่วยดับกลิ่นไหม้ได้ ทั้งยังสามารถช่วยดับกลิ่นอาหารที่ติดไมโครเวฟได้เช่นกัน ด้วยการนำมะนาวที่หั่นเป็นชิ้นบาง ๆ ในลงในน้ำเดือดและตั้งทิ้งไว้แบบปิดฝาให้ไอน้ำระเหยออกมา ทำให้กลิ่นในห้องครัวดีขึ้น

สำหรับกลิ่นที่เกิดขึ้นในตู้เย็น เราควรใช้ถ่านหุงอาหาร หรือ ถ่านกับกลิ่นโดยเฉพาะวางไว้ชั้นบนข้างในตู้เย็น โดยดึงปลั๊กตู้เย็นออกก่อนและเปิดประตูไว้ให้อากาศถ่ายเท รวมถึงใช้ผงกาแฟเทใส่ถ้วยเป็นตัวช่วย ด้วยการตั้งทิ้งไว้ให้ดูดกลิ่นอับในตู้เย็นจนกว่ากลิ่นกาแฟจะหายไป

เคล็ดไม่ลับ ของใช้ในครัวแก้กลิ่นเหล่านี้ได้

ลองสำรวจห้องครัวของคุณว่า มีน้ำส้มสายชูใช้แล้วหรือซื้อไว้แต่ยังไม่ได้ใช้หรือไม่ เพราะน้ำส้มสายชูคู่ครัวมีคุณสมบัติที่สามารถช่วยขจัดกลิ่นอับได้ เพียงแค่นำน้ำส้มสายชูใส่ในภาชนะ เช่น แก้วน้ำหรือจานชาม และตั้งทิ้งไว้ในห้อง กลิ่นอับในห้องจะค่อยๆลดลงและหมดไปได้

นอกจากนั้น เรายังสามารถใช้ผงฟูที่เป็นส่วนประกอบช่วยให้ขนมปังพองฟูเป็นก้อนนำใส่จานและวางไว้ในห้อง เพื่อให้ผงฟูช่วยดูดซับกลิ่นทำให้ห้องปราศจากกลิ่นอับได้ รวมถึงการนำขนมปังขาวเทใส่ชามและน้ำส้มสายชู เพื่อนำไปวางทิ้งไว้ในตู้เสื้อผ้าที่มีกลิ่นประมาณ 24 ชั่วโมง เพื่อช่วยกำจัดกลิ่นในตู้เสื้อผ้า

ส่วนปัญหาเรื่องกลิ่นรองเท้าที่ทำให้บรรยากาศบ้านไม่สุนทรีย์ เราสามารถใช้เบกกิ้งโซดาโรยในรองเท้า และนำรองเท้าใส่ถุงพลาสติกผูกให้แน่น โดยนำไปแช่ช่องแข็งในตู้เย็นทิ้งไว้ประมาณ 1-2 คืน ก่อนจะนำรองเท้าทิ้งไว้ในอุณหภูมิห้องและเทผงเบคกิ้งโซดาทิ้ง โดยใช้กระดาษหนังสือพิมพ์อัดเข้าไปในรองเท้า เพื่อให้หมึกพิมพ์ช่วยดูดกลิ่นในรองเท้าได้อย่างมั่นใจยิ่งขึ้น

เมื่อกลิ่นหายไปแต่ยังหลงเหลือไว้ ให้นำใบเตยมาหันเป็นชิ้นๆ ให้ยาวประมาณ 1 นิ้ว นำใส่ภาชนะตั้งทิ้งไว้กลางห้อง เพื่อให้ใบเตยทำหน้าที่ดูดกลิ่นไม่พึงประสงค์ และแทนที่ด้วยกลิ่นหอมๆ ของใบเตยใหม่ ห้องจะมีกลับมากลิ่นที่สดชื่นเหมือนเดิม

เจ้ากลิ่นอับเนี่ยเป็นปัญหาเรื้อรังที่แก้ยากและกวนใจมาก เพราะถ้าห้องมีกลิ่นอับไปแล้วมันจะติดอยู่นาน กำจัดให้หายขาดยาก เพราะงั้นอย่าให้ห้องเราเกิดกลิ่นอับแต่แรกจะดีที่สุดแล้วล่ะครับ ยังไงก็ลองนำวิธีต่างๆ ที่แนะนำไปปรับใช้กับที่บ้านดูนะครับ รับรองว่าป้องกันกลิ่นอับได้แน่นอน!