“น้ำส้มสายชู” คือ เครื่องปรุงรสเปรี้ยวคู่ครัวที่แทบจะมีติดไว้ทุกบ้าน แต่คุณรู้หรือไม่ว่า..ประโยชน์ของน้ำส้มสายชู ไม่มีไว้สำหรับปรุงอาหารเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่น้ำส้มสายชูยังสามารถใช้ทำอะไรต่าง ๆ ในบ้านได้มากมายจนคุณอาจคาดไม่ถึงเลยล่ะ ไม่ว่าจะใช้แทนน้ำยาทำความสะอาด ขจัดคราบต่าง ๆ เป็นต้น เอาเป็นว่าถ้าคุณอยากรู้จักกับประโยชน์ของน้ำส้มสายชูให้มากขึ้นล่ะก็ ลองตาม Cealect ไปดูกันเลยครับ

1. ขจัดคราบในตู้เย็น

นำน้ำเปล่าผสมกับน้ำส้มสายชู อย่างละครึ่งถ้วยเข้าด้วยกัน แล้วนำไปถูๆ ขัดๆ ตรงบริเวณที่มีรอยเปื้อนและคราบสกปรกที่เกาะติดอยู่ตามผนัง ประตู ลิ้นชัก และช่องต่างๆ ภายในตู้เย็น

2. ทำความสะอาดกาน้ำชาและถ้วยกาแฟ

หากมีคราบติดอยู่ที่กาน้ำชา ให้ขัดด้วย น้ำส้มสายชูประมาณครึ่งถ้วย ที่ผสมกับเกลือหรือเบกกิ้งโซดา ประมาณ 1 ช้อนโต๊ะ ก็จะสะอาดขึ้น สำหรับถ้วยกาแฟ หรือจานชามต่างๆ ให้เทน้ำส้มสายชูลงไปในภาชนะเหล่านั้นประมาณ 1 ถ้วยแล้ววางทิ้งไว้ แค่นี้ก็ไม่มีคราบสกปรกหลงเหลือแล้ว

3. จัดการกับเชื้อรา

ฉีดน้ำส้มสายชูลงไปให้ทั่วบริเวณที่มีเชื้อรา จากนั้นก็เช็ดตามด้วยผ้าชุบน้ำบิดหมาดๆ เพียงเท่านี้ก็ สามารถขจัดคราบเชื้อราและทำให้บริเวณนั้นสะอาดขึ้นอีกด้วย 

4. แก้ปัญหาชักโครกสกปรก

นำน้ำส้มสายชูกลั่นราดลงไปให้ทั่วชักโครก จากนั้นก็ทิ้งเอาไว้ประมาณ 5 – 6 ชั่วโมง หรือ 1 คืน แล้วขัดคราบสกปรกออกด้วยแปรงขัด เมื่อขัดจนคราบออกหมดแล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด

5. กำจัดตะไคร่หายเกลี้ยง

หากก๊อกน้ำของคุณ มีคราบสีเขียวๆ หรือตะไคร่น้ำมาเกาะ ให้เช็ดหัวก๊อกน้ำด้วยน้ำส้มสายชู 1 ช้อนชากับเกลือ 2 ช้อนโต๊ะ ให้ทั่วจากนั้นขัดออกด้วยผ้าชุบน้ำบิดหมาดๆ เท่านี้คราบต่างๆ ก็จะหายไป 

8. ทำความสะอาดไมโครเวฟสะอาดสดชื่น

ถ้าไมโครเวฟของคุณมีกลิ่น หรือเศษอาหารหลงเหลืออยู่ ให้คุณนำน้ำส้มสายชูและน้ำร้อนอัตราส่วน 1 : 1 เทลงไปในถ้วย จากนั้นก็นำไปวางไว้ในไมโครเวฟ ตั้งความร้อนที่ระดับสูงสุด แล้วอุ่นเอาไว้ประมาณ 5 นาที เพื่อให้คราบสามารถขจัดออกได้ง่ายขึ้น จากนั้นก็ใช้ผ้าหรือฟองน้ำเช็ดคราบสกปรกในไมโครเวฟออกจนสะอาด 

10. กำจัดคราบหมากฝรั่งให้หลุดหาย

หากคุณอยากจะกำจัดคราบหมากฝรั่ง หรือคราบสติ๊กเกอร์ ที่เกาะอยู่ตามส่วนต่างๆ ออก ง่ายๆ ให้ขัดด้วยผ้าชุบน้ำส้มสายชู ถูวนตามเข็มนาฬิกาในการกำจัดคราบหมากฝรั่ง ส่วนคราบสติ๊กเกอร์ ให้คุณทาน้ำส้มสายชูลงบนคราบ แล้วทิ้งไว้สัก 10 นาที แล้วขัดออกด้วยวิธีเดียวกัน คราบที่ว่ายากก็ออกอย่างง่ายดาย 

10. ลบรอยดินสอสี

หากเด็กๆ ของคุณละเลงผนังและพื้นบ้านด้วยรอยดินสอสีล่ะก็ ให้ใช้แปรงสีฟันชุบน้ำส้มสายชู แล้วขัดออกเบาๆ เพียงเท่านี้คราบก็หายไปเหมือนสั่งได้ และที่สำคัญน้ำส้มสายชูยังปลอดภัย และเป็นมิตรกับเด็กๆ อีกด้วย 

11. สลัดความฝืดของกรรไกร

ถ้าตอนนี้กรรไกรของคุณเริ่มฝืด ตัดอะไรไม่ค่อยจะขาด ให้เช็ดกรรไกรด้วยผ้าชุบน้ำส้มสายชูบิดหมาดๆ น้ำส้มสายชูไม่ได้ทำให้กรรไกรสะอาดเพียงอย่างเดียว แต่ยังช่วยป้องกันการเกิดสนิมให้กับกรรไกรอีกด้วย

12. เพิ่มพลังขจัดรอยไหม้บนเตาปิ้ง

ก่อนจะนำตะแกรงหรือเตาปิ้งที่มีคราบอาหารเกาะอยู่ไปทำความสะอาด ให้ฉีดด้วยน้ำส้มสายชู แล้วปล่อยทิ้งไว้สักครู่ จากนั้นขัดคราบออกด้วยฝอยขัดหม้อ ก็จะช่วยให้คราบต่างๆ สลายออกได้ง่ายขึ้น

13. ลบคราบเทปกาว

ฉีดน้ำส้มสายชูไปที่คราบแล้วรอซักครู่ ก็จะสามารถลบคราบเทปกาวออกได้ครับ

14. กำจัดกลิ่นถังขยะ

ราดน้ำส้มสายชูบนขนมปังให้ชุ่มแล้วทิ้งไว้ในถังขยะข้ามคืน กลิ่นขยะก็จะดีขึ้นจนหมดไป

สิ่งที่ต้องใช้ในการทำความสะอาดห้องน้ำ เพื่อขจัดคราบสกปรก และ ฆ่าเชื้อโรค ได้แก่

1. น้ำส้มสายชู 9% จำนวน 1 แก้ว
2. ผงเบคกิ้งโซดา หรือ เกลือไอโอดีน

วิธีทำความสะอาดด้วยการผสมน้ำส้มสายชูกับผงเบคกิ้งโซดา
อุ่นหรือต้มน้ำส้มสายชูในปริมาณ 1 แก้ว ให้มีอุณหภูมิ 40 องศาเซลเซียส จากนั้นผสมกับผงเบคกิ้งโซดา หรือ ไอโอดีน สูตรคือ น้ำส้มสายชู 200 กรัม ( 7 ออนซ์) ต่อ ผงเบคกิ้งโซดา 1 ช้อนชา หากคุณใช้เกลือไอโอดีน ก็ให้ใช้อัตราส่วน 1 ต่อ 1 ได้เลย
หลังจากผสมให้เข้ากันแล้ว ให้เทลงในแท็งก์ส้วมชักโครก ทิ้งไว้สัก 5 – 12 ชั่วโมง คำแนะนำคือ เหมาะที่จะทำในเวลากลางคืน ซึ่งเป็นเวลาที่เราไม่ได้ใช้งานส้วมอยู่แล้ว จะทำให้ทิ้งไว้ได้นาน และหากต้องการผลลัพธ์ที่ดีขึ้น ก็สามารถทำซ้ำติดต่อกันได้ จะช่วยให้มีประสิทธิภาพในการทำความสะอาดมากยิ่งขึ้นค่ะ (วิธีนี้จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำความสะอาดมากกว่า วิธีที่ไม่ใช้ผงเบคกิ้งโซดา นะครับ)

วิธีทำความสะอาดด้วยการใช้น้ำส้มสายชู แต่เพียงอย่างเดียว
ปล่อยน้ำออกจากแท็งก์ชักโครกให้เกลี้ยง เช็ดพื้นผิวภายในแท็งก์ด้วยผ้าแห้ง จากนั้นใช้ผ้าชุบน้ำส้มสายชูให้ชุ่มเช็ดบริเวณคราบสกปรก ปล่อยทิ้งไว้อย่างนั้นสัก 2 – 6 ชั่วโมง อย่าให้น้ำไหลเข้าแท็งก์ จากนั้นใช้แผ่นใยขัด ( ที่ไม่ใช่ฝอยขัดหม้อ หรือ ทำจากโลหะ) ขัดซ้ำจะสะอาดขึ้น

น้ำส้มสายชู คือของดีคู่ครัวที่คุณควรมีไว้ติดบ้าน เพราะนอกจากจะทำให้รสชาติอาหารเป็นที่ถูกปากแล้ว ยังสามารถทำให้บ้านของคุณกลับมาสะอาดได้อย่างใจอีกด้วย นอกจากนี้คุณยังไม่ต้องเอาตัวเข้าไปเสี่ยงกับสารเคมีภัณฑ์ต่าง ๆ ให้เป็นกังวลด้วยนะ