BOQ หรือ Bill of Quantities คือ เอกสารแสดงราคากลางในการก่อสร้างที่ใช้ในขั้นตอนการหาผู้รับเหมาก่อนที่จะทำการก่อสร้าง รายละเอียดด้านในจะเป็นรายการที่แสดงปริมาณงานและราคาวัสดุก่อสร้างที่ถอดมาจากแบบก่อสร้างทั้งหมด ทั้งจากแบบสถาปัตยกรรม แบบวิศวกรรมโครงสร้าง และแบบวิศวกรรมงานระบบต่างๆ ซึ่งจะแยกเป็นหมวดหมู่งานอย่างละเอียด เช่น งานเตรียมพื้นที่ งานโครงสร้าง (ฐานราก คาน เสา พื้น และโครงหลังคา) งานมุงหลังคา งานฝ้าเพดาน งานผนัง งานพื้น งานทาสี งานระบบไฟฟ้า งานประปาและสุขาภิบาล เป็นต้น โดยจะแจกแจงเป็นรายการต่างๆ ในแต่ละหมวด พร้อมทั้งมีการระบุประเภท ขนาด ราคาของวัสดุ ปริมาณหรือพื้นที่ที่ใช้ รวมถึงค่าแรงในแต่ละรายการเอาไว้ด้วย โดยปกติสถาปนิกจะเป็นผู้จัดทำให้ตามที่ระบุไว้ในสัญญาว่าจ้าง แต่ถ้าหากไม่มีระบุไว้ในสัญญา เราควรจัดหาผู้เชี่ยวชาญให้เป็นผู้จัดทำโดยให้สถาปนิกจะเป็นผู้ช่วยตรวจสอบข้อมูลและความถูกต้องอีกที

ตัวอย่างบางส่วนของ BOQ

          เมื่อเรามีแบบก่อสร้างและทำการยื่นขออนุญาตก่อสร้างเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ระหว่างนี้เราสามารถหาผู้รับเหมามาก่อสร้างไปด้วยได้ โดยต้องเตรียม BOQ เอาไว้ เพื่อใช้ในการประกวดราคาหาผู้รับเหมา ซึ่งผู้รับเหมาที่เข้าร่วมประกวดราคาจะต้องผ่านเกณฑ์การพิจารณาคัดเลือกในด้านต่างๆ ในขั้นต้นตามที่เรากำหนดไว้แล้ว BOQ จะเป็นเอกสารสำคัญที่สถาปนิกและเจ้าของโครงการใช้เปรียบเทียบราคาก่อสร้างจากผู้รับเหมาแต่ละรายที่เข้าร่วมการประกวดราคา โดยผู้รับเหมาจะได้รับ Blank BOQ ซึ่งเป็นเอกสารชุดเดียวกับ BOQ เพียงแต่จะเว้นว่างในช่องราคาค่าวัสดุ ค่าแรง ค่าดำเนินการ กำไร และภาษีไว้ให้กรอก และเมื่อได้ผู้รับเหมามาสร้างบ้านให้เราแล้ว เอกสารตัวนี้จะเป็นตัวควบคุมและตรวจสอบงบประมาณในการก่อสร้าง เพราะสามารถเปลี่ยนแปลงปริมาณหรือชนิดวัสดุก่อสร้างที่ระบุเอาไว้ได้ นอกจากนี้หน้าที่สำคัญของ BOQ ยังช่วยคุมการวางแผนซื้อและจัดส่งสินค้าให้ทันตามกำหนดการก่อสร้างอีกด้วย

หมวดหมู่ของ BOQ

          โดยปกติแล้ว BoQ มีหมวดหมู่ที่คล้ายคลึงกัน แต่รายละเอียดจะแตกต่างกันไปตามการก่อสร้างของตึกนั้นๆ ซึ่งจะประกอบไปด้วย
 – หมวดการเตรียมงาน แสดงค่าใช้จ่ายในการเตรียมการก่อสร้าง เช่นการปรับพื้นที่หน้าดิน หรือการรื้ออาคารเก่า
 – หมวดงานโครงสร้าง แสดงรายละเอียดและปริมาณงานโครงสร้างทั้งหมด เช่น คอนกรีตโครงสร้าง คอนกรีตหยาบ และไม้แบบ
 – หมวดงานสถาปัตยกรรม  ประกอบไปด้วย งานหลังคา งานพื้น ผนัง ประตู และหน้าต่าง รวมไปถึงงานทาสี เช่น กระเบื้องหลังคา พื้นผิวซีเมนต์ ผนังคอนกรีต งานตกแต่งบันได
 – หมวดงานระบบ ประกอบไปด้วย งานประปาและสุขาภิบาล งานไฟฟ้า และงานเดินท่ออากาศ 
 – หมวดงานอื่นๆ(ถ้ามี) เพื่อให้ครบถ้วนตามรูปแบบและรายการ
 

ใครเป็นผู้จัดทำ

          แบ่งได้เป็นสองแบบดังนี้ แบบแรกเจ้าของอาคารเป็นผู้ยื่นเอกสาร BoQ เอง ซึ่งอาจจะให้สถาปนิกทำให้ (แล้วแต่ข้อตกลงร่วมกัน) BoQ เป็นราคากลางให้เจ้าของอาคารเปรียบเทียบกับราคาของผู้รับเหมาแต่ละเจ้า ว่าต่างกันมากน้อยแค่ไหน ในบางครั้งถ้าผู้รับเหมาเสนอราคา BoQ ต่ำเกินไป ก็มีโอกาสที่ผู้รับเหมาจะทิ้งงานค่อนข้างสูง หรือถ้าผู้รับเหมาเสนอราคามาสูงเกินไป เจ้าของก็สามารถต่อรองราคาเพิ่มเติมเพื่อให้ได้ราคาก่อสร้างที่พึงพอใจกันกับทั้งสองฝ่ายได้ หรืออีกแบบหนึ่งคือกรณีที่ผู้รับเหมาเป็นผู้ทำเอกสาร BoQ เพื่อระบุค่าใช้จ่ายและใช้เป็นเอกสารแนบท้ายสัญญาในการก่อสร้างกับเจ้าของอาคาร การทำเช่นนี้จะช่วยลดความขัดแย้งระหว่างผู้รับเหมาและเจ้าของระหว่างการก่อสร้าง ในกรณีที่มีการเพิ่มหรือลดวัสดุนอกเหนือจากในแบบก่อสร้าง
          จะเห็นได้ว่า BoQ เป็นตัวช่วยที่สำคัญสำหรับเจ้าของอาคารและผู้รับเหมา ในการหาราคาที่เหมาะสมก่อนการเซ็นสัญญาก่อสร้าง และการควบคุมงานให้เสร็จสมบูรณ์พร้อมทั้งตรงเวลานั่นเอง

ขอขอบคุณบทความจาก : https://www.scgbuildingmaterials.com